กลยุทธ์การตลาดคืออะไร มีกี่แบบ วางแผนอย่างไรให้ตอบโจทย์ธุรกิจ

ในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันอันดุเดือด การทำการตลาดแบบไร้ทิศทางเปรียบเสมือนการออกเรือโดยไม่มีหางเสือ อาจไปถึงฝั่งได้ แต่ก็ต้องลุ้นและใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง แต่จะดีกว่าไหมถ้าเรามี "แผนที่และเข็มทิศ" ที่ชัดเจน? สิ่งนั้นเรียกว่ากลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำพาธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายได้อย่างมั่นคง บทความนี้ NeuMerlin Group จะพาคุณไปเจาะลึกว่ากลยุทธ์การตลาดคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และมีขั้นตอนการวางแผนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

กลยุทธ์การตลาด หรือ Marketing Strategy คืออะไร

กลยุทธ์การตลาด

กลยุทธ์การตลาด หรือ Marketing Strategy คือแผนการดำเนินงานระยะยาวที่ครอบคลุมภาพรวมทั้งหมดของการตลาด โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ มันไม่ใช่แค่ "สิ่งที่จะทำ" (To-do list) แต่เป็น "แนวทางความคิด" ที่ตอบคำถามสำคัญว่า ทำไมเราต้องทำ, เราจะชนะใจลูกค้าได้อย่างไร, และเราจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ประโยชน์ของการวางกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy)

การสละเวลาเพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมหาศาล เพราะมันช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานของทีมการตลาดจากเชิงรับ (Reactive) ที่คอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไปสู่การทำงานเชิงรุก (Proactive) ที่มีเป้าหมายชัดเจนและคาดการณ์ผลลัพธ์ได้

กำหนดทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจนให้ธุรกิจ

กลยุทธ์การตลาดทำหน้าที่เป็นเหมือนดาวเหนือที่คอยนำทางให้ทุกฝ่ายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย การตลาด หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันได้ ทุกคนจะเข้าใจเป้าหมายร่วมกันว่าเรากำลังจะไปที่ไหน และจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไร ซึ่งช่วยลดความสับสนและทำให้การทำงานสอดประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วยให้เข้าใจลูกค้าและตลาดอย่างลึกซึ้ง

กระบวนการวางแผนกลยุทธ์บังคับให้เราต้องศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า คู่แข่ง และภาพรวมของตลาดอย่างละเอียด ทำให้เราค้นพบข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่สำคัญเกี่ยวกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าและช่องว่างในตลาด เมื่อเราเข้าใจพวกเขาอย่างลึกซึ้ง เราก็จะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์และสารที่ "โดนใจ" พวกเขาได้อย่างแท้จริง

จัดสรรงบประมาณและทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

เมื่อมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน เราจะรู้ว่าควรจะทุ่มงบประมาณ เวลา และกำลังคนไปที่ช่องทางหรือกิจกรรมไหนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด และควรจะลดความสำคัญของกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ แทนที่จะหว่านเงินไปกับการตลาดทุกรูปแบบอย่างไร้จุดหมาย กลยุทธ์การตลาดจะช่วยให้เราสามารถใช้ทรัพยากรทุกบาททุกสตางค์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน

ในตลาดที่มีสินค้าและบริการคล้ายกัน กลยุทธ์การตลาดคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง มันช่วยให้เราสามารถสร้างจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์และสื่อสารคุณค่าที่เหนือกว่าคู่แข่งออกไปได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การมีกลยุทธ์ที่ดียังสะท้อนถึงการออกแบบแบรนด์ที่ผ่านการคิดมาอย่างรอบคอบ ทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำและยากต่อการลอกเลียนแบบ

องค์ประกอบกลยุทธ์ทางการตลาด (Marketing Strategy) ที่สำคัญ

กลยุทธ์การตลาด

กลยุทธ์การตลาดที่ดีและครอบคลุมนั้นถูกสร้างขึ้นจากองค์ประกอบพื้นฐานหลายส่วนที่ทำงานร่วมกัน ซึ่งนักการตลาดจำเป็นต้องทำความเข้าใจและออกแบบองค์ประกอบเหล่านี้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและสถานการณ์ของธุรกิจ

การวิเคราะห์ (Analysis) - SWOT, 5 Forces Model

ก่อนจะวางแผนไปข้างหน้า เราต้องรู้ก่อนว่าเรายืนอยู่ตรงไหน การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน (จุดแข็ง-จุดอ่อน) และปัจจัยภายนอก (โอกาส-อุปสรรค) หรือที่เรียกว่า SWOT Analysis รวมถึงการวิเคราะห์แรงกดดันทางการแข่งขัน (5 Forces Model) จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมและสามารถวางกลยุทธ์บนพื้นฐานของความเป็นจริงได้

กลุ่มเป้าหมาย (Target Audience)

ไม่มีธุรกิจไหนที่สามารถขายของให้คนทั้งโลกได้ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน หรือการสร้าง Persona (ตัวตนของลูกค้าในอุดมคติ) จะช่วยให้เราสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทาง และการสื่อสารที่เหมาะกับคนกลุ่มนั้นโดยเฉพาะ ทำให้การตลาดของเราแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เป้าหมายและตัวชี้วัด (Goals & KPIs)

กลยุทธ์ที่ดีต้องวัดผลได้ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง (เช่น เพิ่มยอดขาย 15% ในไตรมาสที่ 4) และกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs) ที่สอดคล้องกัน (เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์, อัตราการซื้อ) จะช่วยให้เราสามารถติดตามความคืบหน้าและประเมินได้ว่ากลยุทธ์ที่วางไว้ได้ผลดีเพียงใด

ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix)

นี่คือกลุ่มของเครื่องมือและยุทธวิธีที่เราจะใช้เพื่อบรรลุเป้าหมาย หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "P" ต่างๆ เช่น 4P หรือ 8P ซึ่งเป็นเหมือนการปรุงสูตรลับทางการตลาด โดยเลือกใช้ส่วนผสมต่างๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อสร้างข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมายของเรา

กลยุทธ์การตลาด 4P คืออะไร มีอะไรบ้าง

กลยุทธ์การตลาด

ส่วนประสมทางการตลาด 4P คือทฤษฎีดั้งเดิมและเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของกลยุทธ์การตลาด โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่เน้นการขาย "สินค้า" ที่จับต้องได้ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบหลักที่ต้องออกแบบให้สอดคล้องกัน

Product (ผลิตภัณฑ์)

คือสิ่งที่ธุรกิจนำเสนอเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้าเอง คุณภาพ การออกแบบ บรรจุภัณฑ์ หรือการรับประกัน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ต้องถูกออกแบบมาให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้

Price (ราคา)

คือมูลค่าที่ลูกค้าต้องจ่ายเพื่อแลกกับสินค้า การตั้งราคาไม่ได้มองแค่ต้นทุน แต่ต้องพิจารณาถึงการรับรู้คุณค่าของลูกค้า (Value Perception) ราคาของคู่แข่ง และเป้าหมายของแบรนด์ (เช่น ตั้งราคาสูงเพื่อภาพลักษณ์พรีเมียม หรือราคาต่ำเพื่อเจาะตลาดแมส)

Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย)

คือสถานที่หรือช่องทางที่ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงและซื้อสินค้าของคุณได้ ตั้งแต่หน้าร้านค้าปลีก, เว็บไซต์ E-commerce, ไปจนถึงการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย การเลือกช่องทางที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าของคุณได้อย่างสะดวกสบายที่สุด

Promotion (การส่งเสริมการขาย)

คือทุกกิจกรรมการสื่อสารที่ทำให้ลูกค้ารู้จัก สนใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ ซึ่งรวมถึงการโฆษณา, การทำโปรโมชันลด แลก แจก แถม, การทำประชาสัมพันธ์ (PR), และการตลาดดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขาย

ต่อยอดสู่ยุคบริการด้วยกลยุทธ์การตลาด 8P มีอะไรอีกบ้าง

ในยุคที่ธุรกิจบริการและการสร้างประสบการณ์ลูกค้ามีความสำคัญมากขึ้น กลยุทธ์การตลาดแบบ 4P อาจไม่ครอบคลุมเพียงพอ จึงเกิดการต่อยอดเป็น 8P ขึ้นมาโดยเพิ่มอีก 4 องค์ประกอบที่เน้นด้าน "บริการ" เข้าไป เพื่อให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ได้รอบด้านและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

People (บุคลากร)

คือพนักงานทุกคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งเป็นหน้าตาของแบรนด์ การคัดเลือก, อบรม, และสร้างแรงจูงใจให้พนักงานมีใจรักบริการ (Service Mind) คือหัวใจสำคัญที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ

Process (กระบวนการ)

คือขั้นตอนทั้งหมดในการส่งมอบบริการให้กับลูกค้า ตั้งแต่การสอบถามข้อมูล การสั่งซื้อ ไปจนถึงบริการหลังการขาย กระบวนการที่ถูกออกแบบมาอย่างดี มีประสิทธิภาพ และราบรื่น จะช่วยสร้างความพึงพอใจและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้

Physical Evidence (สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ)

คือทุกสิ่งที่จับต้องได้ซึ่งลูกค้าใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับคุณภาพของบริการ เช่น การตกแต่งสถานที่, บรรยากาศ, เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย, หรือแม้แต่เครื่องแบบของพนักงาน สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้บริการที่จับต้องไม่ได้ดูมีตัวตนขึ้นมา

Productivity & Quality (ประสิทธิภาพและคุณภาพ)

คือการรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพในการให้บริการ (ความรวดเร็ว, ต้นทุน) และคุณภาพของการบริการ (ความถูกต้อง, ความพึงพอใจ) กลยุทธ์ที่ดีต้องมั่นใจได้ว่าการลดต้นทุนหรือเพิ่มความเร็วจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพในสายตาของลูกค้า

5 ขั้นตอนการวางกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) ให้ประสบความสำเร็จ

หลังจากเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการลงมือสร้างกลยุทธ์การตลาดของคุณเอง ซึ่งสามารถสรุปเป็นกระบวนการที่ทำตามได้ง่ายๆ 5 ขั้นตอนหลัก ที่จะช่วยเปลี่ยนทฤษฎีให้กลายเป็นการปฏิบัติจริง

ขั้นตอนที่ 1 กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ (Set Business Goals)

เริ่มต้นจากการมองภาพใหญ่ที่สุดก่อนว่าเป้าหมายของธุรกิจคืออะไร (เช่น เพิ่มรายได้รวม, ขยายส่วนแบ่งตลาด) จากนั้นจึงย่อยลงมาเป็นเป้าหมายทางการตลาดที่สอดคล้องกัน (เช่น สร้าง Leads เพิ่ม 20%, เพิ่ม Brand Awareness 30%)

ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์สถานการณ์ (Analyze the Situation)

นำเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ เช่น SWOT หรือ 5 Forces Model มาใช้เพื่อทำความเข้าใจจุดแข็ง, จุดอ่อน, โอกาส, อุปสรรค, และสถานการณ์การแข่งขันในตลาดอย่างละเอียด เพื่อให้รู้ว่าเราอยู่ตรงไหนและกำลังจะเจอกับอะไร

ขั้นตอนที่ 3 กำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Define Target Audience)

ระบุให้ชัดเจนว่าลูกค้าของคุณคือใคร พวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร มีความต้องการอะไร และอยู่ที่ไหน การสร้าง Customer Persona จะช่วยให้ขั้นตอนนี้เห็นภาพและจับต้องได้ง่ายขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 ออกแบบส่วนประสมทางการตลาด (Design Marketing Mix)

นำข้อมูลทั้งหมดมาออกแบบ 4P หรือ 8P ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและสถานการณ์ของธุรกิจที่สุด ทุก "P" จะต้องสอดคล้องและส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อสร้างเป็นข้อเสนอที่แข็งแกร่งและน่าดึงดูด

ขั้นตอนที่ 5 สร้างแผนปฏิบัติการและวัดผล (Create Action Plan & Measure)

แปลงกลยุทธ์ให้กลายเป็นแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ที่มีรายละเอียดชัดเจนว่า ใครจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ พร้อมกำหนด KPI ที่จะใช้วัดผลในแต่ละกิจกรรม เพื่อให้สามารถติดตามความคืบหน้าและนำข้อมูลมาปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้นไปในอนาคต

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

กลยุทธ์การตลาดกับ แผนการตลาด ต่างกันอย่างไร

กลยุทธ์การตลาดคือ "แนวทางและภาพรวม" ในระยะยาวว่าเราจะชนะในตลาดได้อย่างไร ส่วนแผนการตลาด (Marketing Plan) คือ "เอกสารและขั้นตอน" ในระยะสั้นที่บอกว่าเราจะทำอะไรบ้างเพื่อให้บรรลุกลยุทธ์นั้น

ธุรกิจบริการควรใช้กลยุทธ์การตลาด 4P หรือ 8P

ควรใช้ 8P เพราะจะครอบคลุมมิติที่สำคัญของธุรกิจบริการ เช่น บุคลากร (People) และกระบวนการ (Process) ซึ่งเป็นหัวใจของการสร้างประสบการณ์ลูกค้า แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องให้ความสำคัญกับ 4P พื้นฐานเช่นกัน

ควรทบทวนกลยุทธ์การตลาดบ่อยแค่ไหน

โดยทั่วไปควรทบทวนกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ปีละ 1 ครั้ง และคอยติดตามผลลัพธ์เพื่อปรับแก้แผนปฏิบัติการย่อยๆ ทุกไตรมาสหรือทุกเดือน เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค

ธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องวางกลยุทธ์การตลาดหรือไม่

จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะธุรกิจขนาดเล็กมีทรัพยากรจำกัด การมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้สามารถแข่งขันกับธุรกิจที่ใหญ่กว่าได้อย่างทัดเทียม

สรุปบทความ

โดยสรุปแล้วกลยุทธ์การตลาดไม่ใช่เรื่องซับซ้อนที่จำกัดอยู่แค่ในตำราเรียน แต่เป็นแผนที่นำทางที่จำเป็นสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน การวางแผนกลยุทธ์ที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าใจตลาด, เข้าใจลูกค้า, และใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

หากคุณต้องการพาร์ทเนอร์ที่ช่วยวางกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคมและตอบโจทย์ธุรกิจของคุณในยุคดิจิทัล ทีมงาน NeuMerlin Group พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ เพราะภายใต้ NeuMerlin Group มีบริษัทเครือข่ายที่พร้อมให้บริการด้านการตลาดโดยเฉพาะ ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่า เราจะสามารถวางกลยุทธ์การตลาดด้วยความใส่ใจ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีกลับมาให้ธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน

Writer
NMG Team

เราคือ Marketing Agency ที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการมีส่วนร่วมในเอเชียแปซิฟิก พร้อมทีมงานมืออาชีพ

As a creative agency, we believe in the power of imagination and innovation. We are constantly pushing the boundaries of what is possible, and strive to create work that is not only beautiful and effective, but also meaningful and impactful.

LET'S START A PROJECT

contact@neumerlin.com
By using this website, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. View our Privacy Policy for more information.