5 เทรนด์การทำงานยุคใหม่ปี 2024
ในปัจจุบัน เทรนด์การทำงานมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทและตัวพนักงานเองต้องพยายามติดตามเทรนด์การทำงานและพยายามปรับตัวให้เท่าทัน ซึ่งในบทความนี้ NeuMerlin Group จะมาแนะนำ 5 เทรนด์การทำงานยุคใหม่ที่น่าจับตามองในปี 2024 จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย
สำหรับ 5 เทรนด์การทำงานยุคใหม่ที่เรารวบรวมมาในบทความนี้ ล้วนแต่เป็นเทรนด์ที่เราสามารถพบเห็นได้มากในปัจจุบัน แต่อาจจะยังไม่เข้าใจอย่างชัดเจน ซึ่ง NeuMerlin Group จะมาขยายความเทรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้ให้เข้าใจมากขึ้นเอง
1. การใช้ Generative AI
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Generative AI เป็นเทรนด์การทำงานที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ โดยจะเป็นการนำ AI ไปใช้ในการทำ Content Marketing ให้สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้ ซึ่งก็มีหลาย ๆ บริษัทที่มีการปรับตัวและนำ AI เข้ามาใช้ในการเพิ่มยอดขายและเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการหาตัวช่วยเพื่อทุ่นแรงให้กับพนักงาน ธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณไม่มากพอ และธุรกิจ Startup เป็นต้น
2. การทำงานแบบ Hybrid Work
จากการแพร่ระบาดที่รุนแรงของโรคโควิด 19 ก่อนหน้านี้หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับการทำงานแบบ Work From Home ซึ่งเป็นการทำงานจากที่บ้านหรือที่ใดก็ได้แบบ 100% แต่ในปัจจุบันที่การแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลาย ๆ องค์กรจึงเริ่มหันมาใช้รูปแบบการทำงานแบบ Hybrid Work ที่กระตุ้นให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศมากขึ้น ทำให้พนักงานได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในองค์กร และสามารถทำงานร่วมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การมีรายได้เสริมระหว่างการทำงาน
เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง จนรายได้จากงานประจำอาจจะไม่พอใช้จ่ายในชีวิจประจำวัน ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาทำอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ระหว่างการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำฟรีแลนซ์หลังจากเลิกงาน การทำงานพิเศษในวันเสาร์-อาทิตย์ ทั้งนี้ สำหรับคนที่กำลังมองหารายได้และอาชีพเสริมระหว่างการทำงาน ก็อย่าลืมจัดสรรเวลาให้ดี และรับผิดชอบงานประจำให้มีประสิทธิภาพที่สุดด้วยเช่นกัน
4. การทำงานภายใต้แนวคิด DEI
ในปัจจุบัน แนวคิด DEI เป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจในกลุ่มองค์กรยุคใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่ง DEI ย่อมาจาก
- D- Diversity (ความหลากหลาย) ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายเฉพาะตัวของบุคคล เช่น เพศสภาพ รสนิยมทางเพศ อายุ เชื้อชาติ เป็นต้น หรือความหลากหลายที่เกิดจากสภาพสังคม เช่น ระดับการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ความเชื่อทางศาสนา เป็นต้น
- E- Equity (ความเท่าเทียม) ความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสต่าง ๆ โดยปราศจากอคติและการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ การได้รับการดูแล
- I- Inclusion (การเปิดรับคนทุกคน) หรือความรู้สึกมีส่วนร่วม การได้รับการยอมรับ และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร
แน่นอนว่า หากองค์กรสามารถนำแนวคิด DEI นี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นมิตรต่อพนักงานทุกคน ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และบรรยากาศการทำงานได้
5. เตรียมทักษะอนาคตให้พร้อมตลอดเวลา
เนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิต ทำให้คนยุคใหม่ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันก็สามารถค้นคว้าและศึกษาเพื่อ Reskill และ Upskill ของตัวเองได้ตลอดเวลา นอกจากนี้หลาย ๆ องค์กรยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มทักษะให้กับพนักงาน ด้วยการส่งเสริมให้พนักงานเข้าร่วมอบรม หรือลงคอร์สเรียนออนไลน์
สรุปบทความ
และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 เทรนด์การทำงานที่น่าจับตามองที่ NeuMerlin Group รวบรวมมาแบ่งปัน ซึ่งองค์กรและพนักงานก็สามารถนำเทรนด์การทำงานเหล่านี้ไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการทำงานของตัวเองให้เท่าทันกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องได้
เราคือ Marketing Agency ที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการมีส่วนร่วมในเอเชียแปซิฟิก พร้อมทีมงานมืออาชีพ