8 เทรนด์ในการออกแบบเว็ปไซต์ ที่ดีไซนเนอร์ควรรู้! ลองนำไปใช้น่าจะทำให้งานมีทั้งความสนุก และความสร้างสรรค์ในแบบที่แตกต่างจากการออกแบบแบบเดิมๆ
สำหรับนักออกแบบ การอัปเดตเทรนด์การออกแบบนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน Commercial เพื่อสร้างสรรค์งานที่ทันสมัย สะดุดตา และอาจช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน
เทรนด์ในการออกแบบเว็ปไซต์โดยรวมที่จะเห็นได้มากขึ้นในปี 2022 จะมีส่วนผสมของความสนุกความขี้เล่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเว็บไซต์เพื่อเป็นงานศิลป์ หรือเว็บไซต์ทำเอามันส์เพื่อตอบสนองความต้องการ หรือปลดปล่อยจิตนาการของนักออกแบบเองก็ตาม เหมือนในยุคที่เว็ปไซต์เพิ่งเกิดใหม่ ที่ยังไม่มีวิธีการออกแบบที่ค่อนข้างเป็นสแตนดาร์ดเหมือนปัจจุบัน (การออกแบบส่วนใหญ่ในยุคนั้นจะเป็นลักษณะของการทดลอง หรือการโชว์เทคนิคใหม่ๆ ตามใจนักออกแบบ)
ในส่วนของ Visual ก็จะมีการยืมสไตล์การออกแบบมาจากยุคที่เว็บเพิ่งเกิดใหม่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโดยหลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพเป็นคีย์หลักในการออกแบบ (ที่กลายมาเป็นสแตนดาร์ดในปัจจุบัน) และหันมาเล่นกับใช้ ฟอนต์หรือเส้นสายมาสร้างสรรค์การออกแบบแทน
1. ทำเอามันส์ (Playful, Fun, and Delight)
เป็นเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์อารมณ์ว่าอยากทำอะไรก็ทำ ทำเอาสนุก ทำเอามันส์ จัดเต็มกับการออกแบบและนาวิเกชั่น แฝงไปด้วยความสนุกและความขี้เล่น
2. ลดการใช้รูปเป็นจุดโฟกัสหลักในการออกแบบ (Fewer images on heroes)
เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์อีกเทรนด์ที่น่าจะเห็นมากขึ้น คือการที่ดีไซเนอร์หันมาใช้การจัดวางเลย์เอาท์ด้วยฟอนต์ หรือการเล่นกับเทคนิค Coding Interaction มากขึ้น โดยเลี่ยงการใช้รูปหรือภาพประกอบที่เป็นสแตนดาร์ดในปัจจุบันเปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์ได้โฟกัสกับการนำเสนอสไตล์การออกแบบหรือเนื้อหามากขึ้น
3. ใช้ฟอนต์ขนาดใหญ่ (Oversized Typography)
เทรนด์การออกแบบตัวอักษรที่มีขนาดใหญ่เกินธรรมดา จนในบางครั้งทำให้คำกลายเป็นองค์ประกอบกราฟิก มากกว่าที่จะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของข้อความโฆษณา เป็นเทคนิคอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ในการออกแบบทั้ง Minimalism หรือ Maximalism อย่างมีประสิทธิภาพและเข้ากับสไตล์ต่างๆ ได้หลากหลาย
4. เส้นกรอบ (Line work)
เป็นเทรนด์ที่ให้ความรู้สึกถึงความทันสมัยและความย้อนยุคได้ในเวลาเดียวกัน (ยิ่งถ้าเป็นเส้นหนาใช้คู่กับฟอนต์ Helvetica ยิ่งทำให้นึกถึงสไตล์ช่วงก่อนปี 2000 จริงๆ) และเราสามารถใช้เส้นเพื่อกำหนดส่วน และ Section ต่างๆ ได้ให้ดูเป๊ะและชัดเจน สิ่งสำคัญที่ดีไซน์เนอร์ควรคำนึงถึง ถ้าจะใช้เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ Linework คือขนาดความหนาของเส้น (line weight)
5. แบ่งหน้าจอ (Split Screen)
เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์แบบแบ่งหน้าจอ เริ่มถูกนำกลับมาให้เห็นบ่อยขึ้น เมื่อก่อนอาจจะมากจากเหตุผลในแง่ของการใช้งานหรือการทำ Responsive แต่ครั้งนี้อาจจะกลับมาด้วยเหตุผลทางด้าน Design มากกว่า
6. มีอารมณ์ของความเป็น 3 มิติ (3-Dimensional Elements)
3 มิติในที่นี้ ไม่ใช่แค่การใช้ภาพเรนเดอร์ 3 มิติในงานออกแบบ แต่เป็นการสร้างอารมณ์ 3 มิติในงาน ด้วยการใช้องค์ประกอบ เช่น เงา การเคลื่อนไหว หรือการใช้เลย์เยอร์ในการออกแบบ ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ที่น่าจับตามอง
7. Footer ขนาดยักษ์ (Mega Footer)
คงไม่มีใครคิดว่า Footer จะกลายมาเป็นเทรนด์ในการออกแบบได้ ดีไซน์เนอร์หันมาจัดเต็มกับการออกแบบ Footer สำหรับเว็บไซ์ที่มีข้อมูลเยอะ และมีความซับซ้อนในโครงสร้าง ไม่ต้องเป็น Section ที่โลกลืมเหมือนที่ผ่านมา
8. การออกแบบที่ครอบคลุม (Inclusive Design and Copy Writing)
ถือเป็นเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ที่สำคัญในปัจจุบัน ที่สังคมมีความอ่อนไหวในความแตกต่างและความหลากหลายในเชื้อชาติ วัฒนธรรม หรือเพศ การออกแบบเว็บไซต์เพื่อมุ่งสู่ความครอบคลุมยิ่งขึ้น ไม่แบ่งแยกทางใดทางหนึ่ง จึงเห็นได้มากขึ้น ตั้งแต่ภาพไปจนถึงภาษาที่ใช้จะมีความเป็นกลาง รีเรทได้กับผู้คนในวงกว้างมากขึ้น
สรุปบทความ
และยังมีเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ที่แอบแทรกๆ อยู่ในหลายๆ งานด้านบนที่ไม่ได้แยกมาเป็นหัวข้อคือ พอยเตอร์ขนาดใหญ่ (Oversized Pointer), เอฟเฟกต์ข้อความเลื่อน (Scrolling Text), การออกแบบประสบการณ์ให้คล้ายแอพ (App-Like Experience) โดยรวมของเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ในปีใหม่นี้ น่าจะมีทั้งความสนุก และความสร้างสรรค์ในแบบที่แตกต่างจากการออกแบบในปีสองปีที่ผ่านมานี้ อย่างไรก็ตามก็อยากให้ดีไซน์เนอร์ลองนำองค์ประกอบเหล่านี้ ไปประยุกต์ใช้ในโปรเจคที่ตัวเองทั้งในตอนนี้และอนาคตกันดู เพื่อที่มันจะได้มันส์และสนุกกันอย่างเต็มที่
Source :
https://webflow.com
https://designmodo.com