Multi Tone Model เล่าเรื่องให้เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย

โฆษณาแบบเดิมๆ อาจจะถูกใจคนแค่บางกลุ่ม และเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนอีกหลายกลุ่ม แล้วจะเล่าเรื่องอย่างไรให้น่าสนใจในยุคนี้?

Intro

งานโฆษณาในยุคสมัยนี้ มีสิ่งที่เรารู้จักและไม่รู้จักเกิดขึ้นมากมาย เพราะตัวแปรต่างๆ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีล้ำๆ ที่เข้ามามีส่วนในงานโฆษณามากขึ้น จึงทำให้สิ่งที่ยากที่สุดในเวลานี้คือ การคาดการณ์ว่าการสื่อสารแบบใดที่จะส่งต่อผู้บริโภคได้ดีและคุ้มค่ามากที่สุด

ในความยากอีกด้านหนึ่งคือการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณา ที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง มีความต้องการสร้างการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ มากมาย เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเห็นโฆษณาแบบเดิมๆ ฟังการเล่าเรื่องด้วยพล็อตเดิมๆ เพราะมันอาจจะถูกใจคนแค่บางกลุ่ม และเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนอีกหลายกลุ่ม การโฆษณาที่อัดให้เห็นถึง Key Benefit เพียงอย่างเดียวเริ่มเห็นผลน้อยลง แต่เราจะเห็นการโฆษณาเพื่อให้รู้สึกถึงอารมณ์ที่เฉพาะเจาะจงถึงแต่ละบุคคล เพื่อหวังผลให้เกิดการโต้ตอบกับแบรนด์ ซึ่งจะทำให้ผ้บูริโภคใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น

จะมีอะไรดีไปกว่าการมีส่วนร่วมกันระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ โดยใช้ประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของแต่ละคน โดยให้เกิดความรู้สึกว่าแบรนด์เป็นสิ่งที่ Support ให้ชีวิตดีขึ้น แต่ความยากก็คือวิถีชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่ควรจะทำให้ได้คือ การแบ่งกลุ่มผู้บริโภคให้ละเอียดที่สุด และมากพอที่งบประมาณที่จะใช้ในการโฆษณาจะทำได้

Multi Tone Model เล่าเรื่องให้เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย

Individual Marketing

Individual Marketing Campaigns จึงได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ไม่มีการใช้งบประมาณเพื่อแคมเปญโฆษณาแบบ "One Size Fit All" อีกต่อไป เพราะงบประมาณจำนวนมากที่พยายามพูดคุยกับคนในแบบเดียวเริ่มมีประสิทธิผลน้อยลง โดยกลายมาเป็นช่วงเวลาของการสร้างแคมเปญขนาดย่อยแต่เยอะ หรือเรียกได้ว่า การทำแคมเปญขนาดเล็ก แต่มีงบประมาณมากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนแต่ละประเภทให้ได้มากที่สุด

Multi Tone Model

Multi Tone เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อนำมาใช้ในการตอบประเด็นข้างต้น จริงๆ แล้วโมเดลนี้ก็มีพื้นฐานของหลักกลยุทธ์การทำการสื่อสารปกติ แต่เน้นการใช้พลังในการย่อย Insight ที่มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว และกระจายงบประมาณให้ถึงทุก Insight อย่างเหมาะสม โดยยังคงยึดแกนหลักของแบรนด์เอาไว้ แล้วหาวิธีพูดใน Tone of Voice ที่แตกต่างออกไป

นั่นหมายถึงทุกทีมในเอเจนซี่ต้องใช้พลังกันเยอะมากขึ้นหลายระดับเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Strategic Planner, Creative, Designer หรือแม้กระทั่ง Client Service แต่ทั้งนี้ก็เพื่อประสิทธิผลของงานสื่อสารที่ดีที่สุด ความคาดหวังในการทำโมเดล Multi Tone นี้เพื่อผลลัพธ์ในการเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้บริโภคในยุคของ Hyper Personalization

Writer
Pwan Keskarn
Creative Director

As a creative agency, we believe in the power of imagination and innovation. We are constantly pushing the boundaries of what is possible, and strive to create work that is not only beautiful and effective, but also meaningful and impactful.

เริ่มโปรเจคร่วมกัน

contact@neumerlin.com
การใช้เว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณตกลงที่จะจัดเก็บคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อปรับปรุง และ วิเคราะห์การใช้งานของเว็บไซต์ ดู นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเราสําหรับข้อมูลเพิ่มเติม Privacy Policy