ปีหน้าเตรียมตัว! เครื่องมือโซเชียลที่จะเปลี่ยนเกม: Interactive Content, Shoppable Posts, Social Stories, LinkedIn Pro, Influencer Magic
โซเชียลมีเดียเทรนด์ไม่เคยหยุดนิ่ง สิ่งที่เคยประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา อาจจะล้มไม่เป็นท่าในปีต่อไปก็ได้ นักการตลาด ครีเอทีฟและคนทำงานที่ใช้โซเชียลแพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือ จึงต้องก้าวตามให้ทันกับสิ่งที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ เพราะลึกๆ แล้วในความใช่ของงานครีเอทีฟที่สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ก็ต้องการความแปลกใหม่ทันกระแส (อาจจะไม่ต้องถึงเบอร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนบนโลก แต่หรือจะเบอร์นั้นก็ไม่มีใครว่า)
โซเชียลมีเดียเทรนด์ที่คาดว่าจะเห็นได้มากขึ้นในปี 2021
1. Interactive Content
สมัยนี้ขายของไม่ต้องเขิน แต่ต้องมีลูกเล่นที่ช่วยสร้างความน่าสนใจ ด้วยการนำ Interactive มาใช้ โดยทั่วไปจะมีการสร้างคอนเทนต์ ที่ทำให้เกิดการโต้ตอบระหว่างแฟนเพจกับแอดมินเพจ ในส่วนโซเชียลแพลตฟอร์มเอง ก็มีเครื่องมือในการสร้าง Interactive Content ที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบ Poll , Augmented Reality , Playable เป็นต้น ที่สำคัญยังมีการพัฒนา Interactive Content รูปแบบใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ เพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างแฟนเพจและเพจ
ทั้งนี้จะใช้โซเชียลแพลตฟอร์มเป็นช่องทางในการเชื่อมต่อเพื่อมาพบกับ Interactive Content บนเว็บไซต์ได้อีกด้วย ถือเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับการเยื่ยมชมเว็บไซต์ ที่สำคัญไปกว่านั้นผู้ให้บริการยังจะได้รู้จักผู้ใช้บริการมากขึ้นด้วย หากต้องการทำการตลาดแบบ Personalized ก็ย่อมได้
ยกตัวอย่างเช่น การทำแบบประเมิน แบบทดสอบ แบบสำรวจ หรือเครื่องมือในการคำนวณขนาดต่าง รวมถึงกิจกรรมการแข่งขัน หรือ Activity ต่างๆ ประสบการณ์ที่ดี และมีประโยชน์ เป็นสิ่งที่ผู้ใช้บริการสามารถจับต้องได้จากการเข้ามายังเว็บไซต์
2. Shoppable Post
การขายของไม่ใช่เรื่องแปลก การลิงค์จากโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ไปยังร้านค้าหรือข้อมูลที่มากขึ้นของสินค้าแบบไม่ซับซ้อน เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อต้องการจากผู้ขาย ซึ่งมันอาจจะช่วยให้ผู้ขายสามารถปิดการขายได้โดยที่ผู้ซื้อยังอยู่ในโพสต์นั้น
โซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง Instagram Facebook รู้ดีว่าผู้ใช้งานจำนวนมาก ใช้ช่องทางนี้เพื่อการซื้อสินค้าและติดต่อกับผู้ขาย ที่ผ่านมา Instagram Facebook มีการติดตั้งเครื่องมือสำหรับผู้ขาย ให้สามารถติดแท็กเพื่อซื้อสินค้าได้โดยตรงจากโพสต์ในรูปแบบปกติ ซึ่งถือเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับผู้ขายและผู้ซื้อ
3. Social Media Stories
เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อคือ Stories บนแพลตฟอร์มต่างๆ การมีเวลาจำกัดในการโพสต์ และการหายไปเมื่อครบ 24 ชม. เป็นความพิเศษที่ทำให้เกิดการติดตามจากผู้บริโภค ที่กำลังสนใจในสินค้าและบริการ เพราะหากพลาดนั่นหมายถึงการพลาดโอกาสรับข้อมูลเฉพาะ หรือโปรโมชั่นพิเศษ ที่อาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ครีเอทีฟจะมีวิธีการใช้ Stories ได้น่าสนใจแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่าถ้าพฤติกรรมของผู้บริโภคที่รอการอัปเดตจากแบรนด์เกิดขึ้นแล้ว
Tips ในการใช้ Stories ให้น่าสนใจ
1. ค้นหาเรื่องราวจากแท็กที่ผู้ใช้บริการแท็กถึง โดยสร้างเนื้อหาใหม่ที่สอดคล้องกับสิ่งนั้น
2. อัพโหลดวิดีโอสตรีมสด สำหรับผู้ที่ไม่ได้ดูวิดีโอสด
3. ใช้แบบสำรวจหรือแบบทดสอบ เพื่อทำให้เกิดการมีส่วนร่วม
4. วิดีโอหรือภาพเคลื่อนไหวง่ายๆ จะมีส่วนทำให้เรื่องราวได้รับความสนใจมากขึ้น
4. Connect to Professionals
ถึง Linkedin จะยังไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มที่แพร่หลายในประเทศไทย แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าคอนเทนต์บน LinkedIn เป็นคอนเทนต์เชิงคุณภาพ การนำเสนอเนื้อหาที่ส่งเสริมความเป็นมืออาชีพ จะดึงดูดคนที่ต้องการเสพเนื้อหาที่เป็นเชิงคุณภาพ ซึ่งนั้นก็หมายถึงโอกาสในการขายที่มีคุณภาพมากขึ้นเช่นกัน Linkedin จึงเป็นสิ่งที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม โดยต้องคิดใหม่ว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นมากกว่าเครื่องมือหางาน นอกจากนั้นยังสามารถติดตั้งเครื่องมือพิเศษ เพื่อทำให้ได้รู้จักกับผู้ใช้งาน Linkedin หรือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเชิงคุณภาพได้มากขึ้นนั่นเอง
5. Influencer Marketing
การใช้ Influencer ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับวงการโฆษณาและการตลาดออนไลน์ เพราะมีการทำงานร่วมกันมาโดยตลอดและหลากหลายวิธีการ และจะยังคงได้ผลในปีต่อไป เพราะ Influencer ยังเป็นคนที่ผู้บริโภคที่ติดตามตัวเขาให้ความไว้วางใจ คอนเทนต์ที่นำเสนอผ่าน Influencer จะมีอิทธิพลกับผู้ติดตามและสามารถเปลี่ยนเป็นมูลค่าทางการตลาดได้ ซึ่งแสดงให้เห็นมาแล้วครั้งไม่ถ้วน
ปัจจุบัน Influencer ที่มีผู้ติดตามน้อยไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีประสิทธิภาพ แต่อาจหมายถึงความเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทางการตลาดมากกว่าการใช้ Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก แต่ไม่รู้ความสนใจที่แท้จริง การเลือกใช้ Influencer ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นจะเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความสนใจมากขึ้นและต่อเนื่อง สิ่งสำคัญอีกอย่างในการเลือก Influencer คือต้องมั่นใจว่า Influencer จะสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์และจุดประสงค์ทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม
สรุปบทความ
ต้องขอออกตัวว่า นี่คือการคาดการณ์ถึงโซเชียลมีเดียเทรนด์ในปี 2021 ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เหนือคำว่าเทรนด์คือ การปรับตัวให้ทันตามการเปลี่ยนแปลงของ นักการตลาด ครีเอทีฟและคนทำงานที่ใช้โซเชียลแพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือ โดยนอกจากจะต้อง “ทัน” โดยการลงมือทดลองใช้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แล้ว จะต้อง “ทำ” ให้เชื่อได้ว่ามันเป็นโซลูชันที่ใช่ที่สุดตามโจทย์การทำงาน
สนใจดูงานแคมเปญและงานโซเชียลมีเดีย ของเราเพิ่มเติมได้ที่นี่ Campaign และ Social Media
Source :
https://www.theedigital.com
https://www.thumbsup.in.th
https://thegrowthmaster.com
https://www.marketingoops.com
เราคือ Marketing Agency ที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการมีส่วนร่วมในเอเชียแปซิฟิก พร้อมทีมงานมืออาชีพ