ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจต้องมีตัวตนบนโลกออนไลน์ การมีเว็บไซต์จึงเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ที่ทุกธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่จะต้องเตรียมให้พร้อม หลายคนอาจคิดว่า การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องยากและต้องอาศัยทักษะการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน แต่ความจริงแล้ว ในปัจจุบันมีเครื่องมือและแพลตฟอร์มมากมายที่ช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดแม้แต่น้อย
ซึ่งในบทความนี้ NeuMerlin Group จะมาแนะนำ 8 วิธีการสร้างเว็บไซต์แบบง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว เพื่อให้เจ้าของธุรกิจในยุคดิจิทัลสามารถนำไปปรับใช้ และทำเว็บไซต์สำหรับธุรกิจของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8 ขั้นตอน วิธีการสร้างเว็บไซต์มีอะไรบ้าง
การสร้างเว็บไซต์ให้สำเร็จนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้อย่างเป็นระบบ คุณก็จะได้เว็บไซต์ที่สวยงาม ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจหรือองค์กรของคุณได้ง่าย ๆ มาดูกันว่า 8 ขั้นตอนในการสร้างเว็บไซต์มีอะไรบ้าง
1. วางแผนการสร้างเว็บไซต์
การเริ่มต้นวิธีการสร้างเว็บไซต์ที่ดีนั้น ต้องเริ่มจากการวางแผนที่ชัดเจน คุณควรกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์ให้ชัดเจนว่าต้องการให้เว็บไซต์ทำหน้าที่อะไร เช่น ขายสินค้า ให้ข้อมูลสินค้า แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับบริการ เป็นต้น จากนั้นระบุกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้การออกแบบเว็บไซต์และเนื้อหาตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
นอกจากนี้จะต้องมีการออกแบบแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap) เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าเว็บไซต์ของคุณจะมีหน้าอะไรบ้าง และมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ซึ่งการวางแผนการสร้างเว็บไซต์ที่ดี จะช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในขั้นตอนต่อไป
2. เลือกแพลตฟอร์ม Instant Web และสร้างบัญชี
ขั้นตอนสำคัญของการสร้างเว็บไซต์ คือการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม โดยในปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม Instant Web มากมายที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด เช่น Wix, WordPress, Squarespace หรือ Webflow ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน
ดังนั้น จึงควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบแต่ละแพลตฟอร์มก่อนตัดสินใจเลือก โดยพิจารณาจากความง่ายในการใช้งาน ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ราคาแพ็คเกจ และการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค นอกจากนี้ก็อย่าลืมคำนึงถึงการแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างเว็บไซต์ที่รองรับการทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกพบเมื่อมีการค้นหาบน Google
3. ตั้งชื่อโดเมนที่สื่อถึงแบรนด์
โดเมนคือที่อยู่ของเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต การตั้งชื่อโดเมนที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าจดจำและเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย โดยชื่อโดเมนที่ดีควรจะมีความสั้น กระชับ จดจำง่าย และสื่อถึงแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ ในการเลือกนามสกุลของโดเมนนั้น มีให้เลือกหลากหลาย เช่น .com, .net, .org, .co.th แต่ .com มักเป็นตัวเลือกที่นิยมมากที่สุดเพราะเป็นที่รู้จักและจดจำได้ง่าย
ซึ่งในบางแพลตฟอร์มมีบริการให้โดเมนฟรีในปีแรก หรือให้ใช้โดเมนย่อยของพวกเขา แต่ถ้าคุณต้องการความเป็นมืออาชีพ การซื้อโดเมนเป็นของตัวเองจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณมากกว่า
4. เลือกเทมเพลตที่ต้องการ

หลังจากมีโดเมนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกเทมเพลตหรือธีมสำหรับเว็บไซต์ของคุณ โดยแพลตฟอร์ม Instant Web ส่วนใหญ่จะมีเทมเพลตสำเร็จรูปมากมายให้เลือกตามประเภทของธุรกิจหรือเป้าหมายของเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ เว็บไซต์ส่วนตัว เว็บไซต์บริษัท หรือพอร์ตโฟลิโอ
ซึ่งคุณสามารถเลือกเทมเพลตที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด และปรับแต่งในภายหลัง การเลือกเทมเพลตที่ดีจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการออกแบบเว็บไซต์ เพราะโครงสร้างพื้นฐานและการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมแล้ว
5. ปรับแต่งเทมเพลตให้เหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งาน
เมื่อได้เทมเพลตที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการและสะท้อนถึงการออกแบบแบรนด์ของคุณ โดยหลาย ๆ แพลตฟอร์มจะมีเครื่องมือ drag-and-drop ที่ช่วยให้คุณปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสี ฟอนต์ รูปภาพประกอบ หรือการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บ
ซึ่งในขั้นตอนนี้ คุณควรจะปรับแต่งเทมเพลตให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของธุรกิจ เช่น การใช้โทนสีและรูปแบบตัวอักษรที่ตรงกับโลโก้และเอกสารทางการตลาดอื่น ๆ ของคุณ สิ่งสำคัญคือการรักษาความสม่ำเสมอในการออกแบบทั่วทั้งเว็บไซต์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน
6. ปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะกับ SEO
การปรับแต่ง SEO (Search Engine Optimization) เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ เริ่มจากการตั้งค่า title tag และ meta description ที่มีคำสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ การใช้ URL ที่สั้นและเข้าใจง่าย รวมถึงการจัดโครงสร้างเนื้อหาด้วย heading (H1, H2, H3) อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ยังควรเพิ่ม alt text ให้กับรูปภาพ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วและรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ (mobile-friendly) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับของ Google แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีเครื่องมือและคำแนะนำในการปรับแต่ง SEO ที่ช่วยให้คุณทำได้ง่ายโดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคมากนัก
7. เพิ่มเนื้อหาหรือคอนเทนต์เข้าไป
เนื้อหาเป็นหัวใจสำคัญของเว็บไซต์ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจะช่วยดึงดูดผู้เยี่ยมชมและช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงในผลการค้นหา เนื้อหาควรมีความชัดเจน อ่านง่าย และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ประวัติบริษัท บทความที่ให้ความรู้ หรือข้อมูลติดต่อ
และที่สำคัญคือควรมีการอัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เว็บไซต์มีความทันสมัยและดึงดูดทั้งผู้เยี่ยมชมใหม่และผู้ที่กลับมาเยี่ยมชมซ้ำ นอกจากนี้ การใช้สื่อมัลติมีเดียอย่างรูปภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงการใช้ call-to-action (CTA) ที่ชัดเจน ก็จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ที่เข้ามาในเว็บไซต์สามารถทำการซื้อสินค้า การลงทะเบียน หรือให้ข้อมูลเพื่อให้แบรนด์ติดต่อกลับได้อย่างสะดวกสบาย
8. ทดสอบและเผยแพร่เว็บไซต์

ก่อนเผยแพร่เว็บไซต์สู่สาธารณะ คุณควรทดสอบการทำงานทุกส่วนอย่างละเอียด ทั้งการทำงานของลิงก์ ฟอร์ม การแสดงผลบนอุปกรณ์ต่าง ๆ (เดสก์ท็อป แท็บเล็ต มือถือ) และความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ นอกจากนี้ ยังควรตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่อยู่บนเว็บไซต์อย่างละเอียด เมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้องแล้ว จึงค่อยกดปุ่ม "เผยแพร่" หรือ "Publish" เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเข้าถึงได้จากทั่วโลก
อย่างไรก็ตามหลังจากเผยแพร่แล้ว คุณยังสามารถปรับปรุงและแก้ไขเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา รวมถึงสามารถเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ เพื่อให้เว็บไซต์มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอยู่เสมอ อีกทั้งควรเชื่อมโยงเว็บไซต์กับช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อขยายการเข้าถึงและสร้างการรับรู้ให้กับเว็บไซต์ของคุณ
สรุปบทความ
การทำเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด เพียงแค่ทำตาม 8 ขั้นตอนที่กล่าวมา คุณก็จะได้เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจหรือองค์กรของคุณ
เราคือ Marketing Agency ที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการมีส่วนร่วมในเอเชียแปซิฟิก พร้อมทีมงานมืออาชีพ