What will be the future of WEB3 การกลายพันธ์ของ WEB3
Intro
โคโรน่าไวรัส หรือ Covid-19 ยังมีพัฒนาการได้ WEB ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน! วันนี้เราจะพาคุณมาดูการเกิดขึ้น และพัฒนาการของ WEB ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันสู่อนาคตของ WEB3 (บางคนก็เรียกเว็บสาม บางคนก็เรียกเว็บสามจุดศูนย์)
In the beginning
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd470_63b4fdd15d8ce7349733434b_60s-70s-80s-context.jpeg)
ในปี 1960 ผู้ใหญ่เนิร์ดกลุ่มหนึ่งได้รวมกลุ่มคอมพิวเตอร์แบบส่วนตัว (private) ที่สามารถสื่อสารกันผ่านสายโทรศัพท์ได้
![](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd45b_63b4fde19b5dde46c984726b_Computer-Talking-To-Each-Other.jpeg)
ในปี 1989 Tim Berners-Lee เป็นผู้คิดค้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบสาธารณะ (public) และตั้งชื่อให้มันว่า World Wide Web และเป็นที่มาของการเกิดขึ้นของ Internet
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd44d_63b4fe01213cca5c74e7df8f_Tim%2520Berners-Lee.jpeg)
WEB1 : ปี 1989 - 2005 ยุคเริ่มแรกของเว็บ
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd489_63b4fe12fd34bae9e9365941_Internet-Expansion.gif)
Web 1.0 นั้นถูกออกมาเพื่อเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว (One Way Communication) โดย User คนอื่นๆ ที่ถ้าไม่ใช้ Webmaster นั้นจะไม่สามารถตอบโต้กลับมาได้ เว็บไซต์ส่วนใหญ่จึงเป็นในรูปแบบของ Static Website
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd496_63b4fe24af611758b594dbc3_90s-contexts.jpeg)
ต่อเข้าเครื่อค่าย internet ด้วย dial-up modem
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd450_63b4fe36213cca48e0e7eb88_Dial-up-window.jpeg)
ดาวโหลดไฟล์ 180mb ใช้เวลา 39 ปี!!
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd483_63b4fe42d8b5d92ec45b8b11_estimate-downloading-180mb-file-takes-39years.jpeg)
Read-only, static และความละเอียดต่ำ มีการโต้ตอบกับผู้ใช้ที่จำกัด
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd444_63b4fe55af6117d19994dbc5_Netscape-browser.jpeg)
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd493_63b4fe5faf61177c7794dbc6_Old-Penny-Juice-website.jpeg)
- การค้นหาตามคำสำคัญ (Keywords based search (dumb search)
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd454_63b4fe9ae55a72582f3ae316_Old-Yahoo-Shearch-Page.jpeg)
สรุป WEB1
- ช้า
- อ่านได้อย่างเดียว (Oneway Communication)
- Static และมีความละเอียดต่ำ
- จำกัดการโต้ตอบกับผู้ใช้
- ขาดมาตรฐานของเบราว์เซอร์
- ค้นหาตาม keywords
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd47c_63b4fead5d8ce757303357ae_clifford-stoll.png)
ในปี 1995 Clifford Stoll (https://en.wikipedia.org/wiki/Clifford_Stoll) (นักเขียน นักดาราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์) เคยเขียนไว้ในหนังซื้อของเค้าว่า “ฉันไม่เชื่อว่าสมุดโทรศัพท์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือร้านวิดีโอต่างๆ จะหายไปเมื่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์แพร่กระจายออกไป ฉันไม่คิดว่าโทรศัพท์ของฉันจะรวมเข้ากับคอมพิวเตอร์ของฉัน เพื่อที่จะกลายเป็นอุปกรณ์ข้อมูลบางอย่าง”
ถ้าเป็นคุณ ณ ตอนนั้น คุณจะคิดว่ายังไง? คิดแบบเดียวกับ Clifford Stoll หรือไม่ ?
WEB 2: ปี 2005 - ปัจจุบัน
Web 1.0 นั้นเป็นเว็บไซต์เพื่อสื่อสารทางเดียวที่เป็นจุดอ่อน จึงเป็นเหตุให้เกิดการพัฒนาของ Web 2.0 ที่เป็น Web ที่ผู้คนสามารถเข้ามามี Ineractive หรือ ตอบโต้กันได้มากขึ้นจนเป็น Two Way Communication ไม่ว่าจะเป็นระหว่าง เจ้าจอง Web กับ User หรือ ระว่าง User กันเอง พัฒนาจนเกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า Social Media ในทุกวันนี้
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/665ebee04e065fc00320d738_Web%203%20%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%3F%20%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20Web3%3F.gif)
ทุกอย่างที่ Cliford Stoll ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น ก็ได้เกิดขึ้น แล้วโทรศัพท์ก็รวมเข้ากับคอมพิวเตอร์จนได้
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd460_63b4fed2af61177f0294f2ea_Original-iPhone.jpeg)
รวมถึงการเกิดขึ้นของเว็บ Social Media เสิร์ชเอนจินขั้นสูง e-commerce และ สตรีมมิ่งแพลทฟอร์มต่างๆ ที่สามารถมี interaction ได้อย่างเต็มรูปแบบ
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd473_63b4fee0fd34ba7e9f36623c_NMG-FB.jpeg)
ซึ่งนำมาสู่ประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องข้อมูล Privacy ของผู้ใช้งาน ที่ถูกเก็บและนำไปใช้งานต่อเวลาเข้าใช้งานในเครือข่ายเน็ตเวิร์คของผู้ให้บริการนั้นๆ ทำให้ข้อมูลของผู้ใช้ตกเป็นของหน่วยงานส่วนกลางนั้นๆ ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวน้อย และส่วนกลางนั้นๆ ยังสามารถควบคุมและจัดการ (Manipulate) กับสิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่โปร่งใส
ความ Privacy ของผู้ใช้งาน เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลของผู้ใช้งานจะถูก(หน่วยงานส่วนกลางของผู้ให้บริการเครือข่ายเน็ตเวิร์ค)เก็บและนำไปใช้งานต่อ เมื่อผู้ใช้งานกลับเข้ามาใช้งานในเครือข่ายเน็ตเวิร์คของผู้ให้บริการรายต่างๆ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวน้อยลง และข้อมูลที่ถูกเก็บไปนั้นยังถูกควบคุมและจัดการ (Manipulate) อย่างไม่โปร่งใสอีกด้วย
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd47f_63b4ff04fd34bae9b1366bb8_Centralized.gif)
สรุป WEB2
- รวดเร็ว
- มีความ dynamic และ มีความละเอียดสูง
- มีการโต้ตอบกับผู้ใช้ได้เต็มรูปแบบ
- การค้นหาแบบอัจฉริยะ
- การมาของ Social Network
- คอนเท้นที่สร้างขึ้นเองจากผู้ใช้งาน (User-generated content)
- Centralized
WEB3 : Now - Future
WEB3 คือ อีกวิวัฒนาการของเว็บ/อินเทอร์เน็ต ที่จะนำมาสู่การ disrupt และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นจาก WEB1 มาเป็น WEB2 และสร้างขึ้นจากแนวคิดหลักของการกระจายอำนาจ (Decentralize) การเปิดกว้างและโปร่งใส และประโยชน์ของผู้ใช้ที่มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหา Painpoint จากเว็บ 2 ที่มีความผูกขาด และ มีความเป็น Privacy
ที่ค่อนข้างน้อยโดยจุดเด่นของ WEB3 นั้นจะมีจุดเด่นต่าง ๆ ดังนี้
ไม่มีหน่วยงานส่วนกลางคอยกุมอำนาจ (Decentralize)
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd486_63b4ff1d5d8ce75cf6335f63_Decentralized2.gif)
- ใช้งานบน Blockchain ที่จะใช้ซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส ผู้เข้าร่วมโต้ตอบโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง และไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่กำกับดูแลใดๆ
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd477_63b4ff2cc2cfdf3a10d6f42f_Using-web3-dapps-on-blockchain.gif)
ผู้ใช้ เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนตัว
![Web 3 คืออะไร? อะไรคือ Web3?](https://cdn.prod.website-files.com/646c3a84dcad82ff27451aca/647996f8cb9736d26d9dd441_63b4ff485d8ce7da0e33663e_Data-Privacy.png)
สรุป WEB3
- กระจายอำนาจ (Decentralized)
- ใช้งานบน blockchain (Powered by blockchain)
- ผู้ใช้เป็นเจ้าของข้อมูล (Maximum data privacy)
- เข้าร่วมโต้ตอบโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง (Trustless and permissionless)
- Internet of value
ถึงแม้ว่า WEB3 จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นขึ้น และ หลายๆ อย่างอาจจะยังเป็นแค่วิสัยทัศน์หรือแนวคิด ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าท้ายสุดนั้นจะออกมาเช่นไร แต่หากเรามองย้อนกลับไปในยุคแรกของการเปลี่ยนแปลง ช่วงเริ่มต้นของเว็บ Clifford Stoll ก็ไม่คิดว่าการมาของอินเทอร์เน็ต/เว็บ จะเปลี่ยนแปลงอะไรหล่ายๆ อย่างที่คาดไม่ถึง และพวกเราที่ถือว่าอยู่ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คิดว่าอนาคตของ WEB3 นั้นจะเป็นอย่างไร จะเข้ามา Disrupt เว็บ 2 ได้หรือไม่ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปครับ
Source :
https://www.investopedia.com/web-20-web-30-5208698
https://coinmarketcap.com/alexandria/article/what-is-web-3-0
https://www.youtube.com/watch?v=RVC3GJ3rNKA
https://www.youtube.com/watch?v=ojT0gQHeyJQ
เราคือ Marketing Agency ที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการมีส่วนร่วมในเอเชียแปซิฟิก พร้อมทีมงานมืออาชีพ