วิธียิงแอด Facebook ปี 2025: 7 ขั้นตอนสำหรับมือใหม่ให้โฆษณาปัง

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การทำการตลาดบน Facebook ยังคงเป็นช่องทางที่ทรงพลังและขาดไม่ได้สำหรับทุกธุรกิจ แต่การแค่กดปุ่ม "Boost Post" อาจไม่เพียงพอที่จะสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าอีกต่อไป การยิงแอด Facebook อย่างมีกลยุทธ์จึงเป็นทักษะสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจต้องรู้ บทความนี้ NeuMerlin Group จะมาเปิดคู่มือวิธียิงแอดฉบับสมบูรณ์ปี 2025 ที่จะเปลี่ยนมือใหม่ให้กลายเป็นมือโปร

การยิงแอด Facebook คืออะไร

การยิงแอด Facebook คือกระบวนการสร้างและเผยแพร่โฆษณาผ่านระบบจัดการโฆษณาของ Meta (Facebook Ads Manager) เพื่อส่งสารทางการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งแตกต่างจากการโปรโมตโพสต์ (Boost Post) ทั่วไป เพราะสามารถกำหนดวัตถุประสงค์, กลุ่มเป้าหมาย, ตำแหน่งการจัดวาง, และวัดผลได้อย่างละเอียดและซับซ้อนกว่า ทำให้แบรนด์สามารถสร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้, การเก็บข้อมูลลูกค้า, หรือการกระตุ้นยอดขาย

ทำไมธุรกิจปี 2025 ยังต้องยิงแอด Facebook

ท่ามกลางแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย หลายคนอาจสงสัยว่าการยิงแอด Facebook ยังคงสำคัญอยู่หรือไม่ คำตอบคือ "สำคัญมาก" ด้วยเหตุผลที่ว่า Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้งานมหาศาลและมีเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมหาศาลได้อย่างแม่นยำ

Facebook มีผู้ใช้งานในประเทศไทยหลายสิบล้านคน และจุดแข็งที่สุดคือความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) ได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประชากร, ความสนใจ, พฤติกรรม, หรือแม้แต่การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณมาแล้ว ทำให้โฆษณาของคุณถูกส่งตรงไปยังคนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ามากที่สุด

ใช้งบประมาณที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่า

หนึ่งในวิธียิงแอดที่มีประสิทธิภาพคือการใช้งบประมาณที่เหมาะสม ซึ่ง Facebook เปิดโอกาสให้ทุกธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่สามารถเข้าถึงการโฆษณาได้ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยงบประมาณเพียงหลักร้อยบาทต่อวัน และสามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ตลอดเวลาตามประสิทธิภาพของแคมเปญ ทำให้ทุกบาททุกสตางค์ถูกใช้อย่างคุ้มค่าและวัดผลได้จริง

รูปแบบโฆษณาที่หลากหลายและสร้างสรรค์

Facebook รองรับรูปแบบโฆษณา (Ad Formats) ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, วิดีโอ, สไลด์ (Carousel), หรือคอลเลกชัน (Collection) ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาที่น่าสนใจและเหมาะสมกับสารที่ต้องการจะสื่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาบน Feed, Stories, หรือ Reels ก็ตาม

วัดผลและปรับปรุงแคมเปญได้อย่างละเอียด

เครื่องมือ Ads Manager มีระบบรายงานผลที่ละเอียดมาก คุณสามารถดูได้ว่าโฆษณาของคุณเข้าถึงคนไปกี่คน, มีคนคลิกเท่าไหร่, มีต้นทุนต่อผลลัพธ์ (Cost Per Result) เป็นอย่างไร ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงแคมเปญได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

3 สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเริ่มยิงแอด Facebook

ก่อนจะเริ่มเรียนรู้วิธียิงแอดคุณต้องมีฐานทัพที่แข็งแกร่งเสียก่อน ซึ่งเริ่มต้นจากการมีเพจที่สมบูรณ์ตามวิธีสร้างเพจ Facebook 2025 และเครื่องมือสำคัญอีก 3 อย่างที่จะทำให้การโฆษณาของคุณเป็นมืออาชีพและวัดผลได้

1. Facebook Business Manager

คือศูนย์บัญชาการสำหรับทุกกิจกรรมทางการตลาดบน Facebook และ Instagram คุณควรสร้างและใช้บัญชี Business Manager เพื่อจัดการเพจ, บัญชีโฆษณา, และสิทธิ์การเข้าถึงของทีมงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีความปลอดภัยและเป็นมืออาชีพมากกว่าการจัดการผ่านบัญชีส่วนตัว

Facebook Pixel

คือชุดโค้ดขนาดเล็กที่ต้องนำไปติดตั้งบนเว็บไซต์ของคุณ เปรียบเสมือน "สายลับ" ที่คอยเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์จากโฆษณา Facebook ข้อมูลนี้จำเป็นอย่างยิ่งในการวัดผล Conversion (เช่น การสั่งซื้อ, การลงทะเบียน) และการทำ Retargeting ในอนาคต

3. คอนเทนต์สำหรับโฆษณา (Ad Creative)

คือรูปภาพ, วิดีโอ, และข้อความ (Copy) ที่คุณจะใช้ในโฆษณา ควรเตรียมไฟล์คุณภาพสูงและออกแบบให้ดึงดูดสายตาและสื่อสารจุดเด่นของสินค้าหรือบริการได้อย่างชัดเจนภายในไม่กี่วินาทีแรก การมี Ad Creative ที่ดีคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้แคมเปญของคุณประสบความสำเร็จ

7 ขั้นตอนวิธียิงแอด Facebook ให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการลงมือปฏิบัติจริงกับวิธียิงแอดผ่านเครื่องมือ Ads Manager ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอนหลักที่เข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่

ขั้นตอนที่ 1 เลือกวัตถุประสงค์แคมเปญ (Campaign Objective)

เริ่มต้นด้วยการตอบคำถามว่า "คุณต้องการอะไรจากการยิงแอด Facebook ครั้งนี้?" โดย Facebook จะมีวัตถุประสงค์ให้เลือก 3 กลุ่มหลักคือ Awareness (สร้างการรับรู้), Consideration (สร้างการพิจารณา เช่น เพิ่มการเข้าชมเว็บ, รับข้อความ), และ Conversion (สร้างยอดขายหรือการกระทำที่สำคัญ)

ขั้นตอนที่ 2 กำหนดงบประมาณและระยะเวลา (Budget & Schedule)

กำหนดงบประมาณที่คุณต้องการใช้ โดยสามารถเลือกได้ทั้งแบบ "งบประมาณต่อวัน" (Daily Budget) หรือ "งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน" (Lifetime Budget) พร้อมทั้งกำหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของแคมเปญ

ขั้นตอนที่ 3 กำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Audience Targeting)

นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คุณต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นโฆษณา โดยสามารถกำหนดได้จากข้อมูลประชากร, ความสนใจ, พฤติกรรม หรือสร้างกลุ่มเป้าหมายจากคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจ/เว็บไซต์ (Custom Audience) และกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน (Lookalike Audience)

ขั้นตอนที่ 4 เลือกตำแหน่งการจัดวางโฆษณา (Placements)

เลือกว่าจะให้โฆษณาของคุณไปแสดงที่ใดบ้าง เช่น บนหน้าฟีดของ Facebook, Instagram Stories, Messenger, หรือ Audience Network แนะนำสำหรับมือใหม่ให้เลือก "Automatic Placements" เพื่อให้ระบบช่วยหาตำแหน่งที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดให้เอง

ขั้นตอนที่ 5 สร้างชิ้นงานโฆษณา (Ad Creative & Copy)

อัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโอที่เตรียมไว้ เขียนข้อความพาดหัว (Headline) และคำอธิบาย (Copy) ที่น่าสนใจ พร้อมใส่ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน เช่น "ซื้อเลย", "เรียนรู้เพิ่มเติม" เพื่อบอกให้ผู้ใช้รู้ว่าคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไรต่อ

ขั้นตอนที่ 6 ตรวจสอบและเผยแพร่โฆษณา

ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดของแคมเปญอีกครั้ง ตั้งแต่วัตถุประสงค์, งบประมาณ, กลุ่มเป้าหมาย, ไปจนถึงชิ้นงานโฆษณา เมื่อมั่นใจว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้กดยืนยัน (Publish) เพื่อส่งโฆษณาให้ระบบตรวจสอบและเริ่มเผยแพร่

ขั้นตอนที่ 7 ติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพ (Monitor & Optimize)

งานของคุณยังไม่จบหลังจากกดยิงแอด คุณต้องคอยเข้ามาดูผลลัพธ์ของแคมเปญอย่างสม่ำเสมอผ่าน Ads Manager เพื่อดูว่าโฆษณาตัวไหนทำผลงานได้ดี และอาจจะปิดตัวที่ไม่ดีหรือปรับปรุงกลุ่มเป้าหมาย/ชิ้นงานโฆษณาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ควรใช้งบประมาณยิงแอด Facebook เท่าไหร่ต่อวัน

ไม่มีตัวเลขตายตัว สำหรับมือใหม่แนะนำให้เริ่มต้นที่ 100-300 บาทต่อวันเพื่อทดสอบและหาแนวทางที่ได้ผลก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มงบประมาณในแคมเปญที่ทำผลงานได้ดี

ทำไมยิงแอด Facebook แล้วไม่เห็นผล

สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจาก 3 ปัจจัยหลักคือ: 1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายผิดพลาด 2. ชิ้นงานโฆษณา (รูปภาพ/วิดีโอ) ไม่น่าสนใจ และ 3. ข้อเสนอหรือโปรโมชันไม่ดึงดูดใจพอ

ยิงแอดผ่านมือถือ (Boost Post) กับยิงผ่าน Ads Manager ต่างกันอย่างไร

การ Boost Post ทำได้ง่ายและรวดเร็ว แต่มีข้อจำกัดด้านการเลือกวัตถุประสงค์และการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ในขณะที่ Ads Manager เป็นเครื่องมือขั้นสูงที่ให้คุณควบคุมทุกอย่างได้ละเอียดกว่า ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว

สรุปบทความ

การยิงแอด Facebook ให้ประสบความสำเร็จในปี 2025 นั้นต้องอาศัยความเข้าใจและการวางแผนอย่างเป็นระบบมากกว่าแค่การกดปุ่มโปรโมต การเรียนรู้วิธียิงแอดทั้ง 7 ขั้นตอนที่กล่าวมาจะช่วยให้คุณสามารถสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุนได้จริง

หากคุณรู้สึกว่าขั้นตอนเหล่านี้ซับซ้อนและต้องการผู้เชี่ยวชาญมาดูแล การใช้บริการรับทำโฆษณากับเอเจนซี่มืออาชีพอย่าง NeuMerlin Group ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาและสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน