การ Rebranding เป็นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ที่พัฒนายิ่งขึ้น แต่คุณเข้าใจการ Rebranding ถูกต้องหรือไม่ เราจะมาให้คำตอบเอง
“แบรนด์” สัญลักษณ์ที่จะทำให้ผู้บริโภคจดจำสินค้าหรือบริการของเราได้ ซึ่งการสร้างแบรนด์ ให้แข็งแรง ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีตัวตนและประสบความสำเร็จได้ แต่แม้ว่าในตอนเริ่มต้นแบรนด์ของคุณจะมีความแข็งแรงมากแค่ไหน เมื่อวันเวลาผ่านไปก็ย่อมมีปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาทำให้แบรนด์ของเราอ่อนแอลง ไม่ว่าจะเป็น คู่แข่งทางธุรกิจ ยอดขายที่ไม่ถึงเป้า เทรนด์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุคสมัย หรือแม้แต่ความไม่เท่าทันเทรนด์ของตัวแบรนด์เอง
แน่นอนว่าปัจจัยเหล่านี้ทำให้แบรนด์ต้องมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดและโครงสร้างในการบริหารองค์กร หรือที่เรียกว่าการ Rebranding เพื่อปรับเปลี่ยนและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ของแบรนด์ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยในบทความนี้ NeuMerlin Group จะพาคุณมาทำความรู้จักการ Rebranding พร้อมแนะนำเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ถึงควรทำให้คุณได้ทราบกัน
Rebranding คืออะไร?
Rebranding คือ การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์หรือภาพจำของแบรนด์ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ที่ดียิ่งขึ้น ผ่านการปรับเปลี่ยน CI Brand คือ โลโก้ สัญลักษณ์ และสี รวมถึงการปรับเปลี่ยนเครื่องมือทางการตลาดในส่วนที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่วิสัยทัศน์ และวิธีคิดของคนในองค์กร เพื่อให้ทุกส่วนขับเคลื่อนแบรนด์ใหม่ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีทั้งในด้านของภาพลักษณ์ไปพร้อมกัน
ประเภทของการ Rebranding
การ Rebranding สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ Reactive Rebranding และ Proactive Rebranding โดยมีความแตกต่างกันดังนี้
1.การรีแบรนด์เชิงรับ (Reactive Rebranding)
Reactive Rebranding คือ การเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ทั้งหมด หรือไม่ใช่ภาพลักษณ์เดิม ๆ ของแบรนด์อีกต่อไป โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงที่บริษัทต้องการตอบสนองกับสถานการณ์บางอย่างที่มีผลต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจหรือสินค้า
2.การรีแบรนด์เชิงรุก (Proactive Rebranding)
Proactive Rebranding คือ การที่บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดใหม่ ๆ หรือเปลี่ยนเป้าหมายในการทำธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่บริษัทมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยไม่รอให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้วค่อยตอบสนอง
เหตุผลที่แบรนด์ต้อง Rebranding
เมื่อได้ทำความรู้จักการ Rebranding กันไปแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจ Rebranding ธุรกิจก็ควรมาสำรวจตัวเองให้ดีเสียก่อนว่า การ Rebranding ของคุณเข้าข่ายเหตุผลที่เรารวบรวมมาเหล่านี้หรือไม่ เพราะหากคุณ Rebranding ไปทั้งที่ไม่มีความจำเป็นก็จะกลายเป็นผลเสียต่อตัวแบรนด์เองได้ โดยเหตุผลที่แบรนด์ต้อง Rebranding มีดังนี้
- ชื่อซ้ำหรือคล้ายคลึงกับธุรกิจอื่นเกินไป จนทำให้ถูกจำสลับกันอยู่บ่อย ๆ หรือไม่มีภาพจำของตัวเองที่ชัดเจน
- ต้องการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- มีการควบรวมหรือเทกโอเวอร์ของสองบริษัทหรือมากกว่านั้น
- กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เปลี่ยนไป หรือต้องการขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ
- ชื่อเสียงที่แบรนด์มี ถูกลดเลือนหายไปจนกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์ของแบรนด์เท่านั้น
- มีการเปลี่ยนผู้นำองค์กร แบรนด์ก็ต้องเปลี่ยนตาม
- ยุคสมัยเปลี่ยนไปจนไม่สามารถสื่อสารแบบเดิม ๆ ได้
ประโยชน์ที่ได้จากการ Rebranding
- กรณีที่แบรนด์เดิมยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ การ Rebranding ก็จะช่วยสร้างตัวตนใหม่ที่น่าจดจำ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า
- เป็นการสร้างความก้าวหน้าให้กับแบรนด์ ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงแบรนด์ให้สามารถเข้าถึงได้ทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิม และกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ต้องการขยาย
- ในกรณีที่มีธุรกิจอื่นที่มีชื่อซ้ำหรือคล้ายคลึงกับแบรนด์ของเรา การ Rebranding จะช่วยสร้างภาพจำของแบรนด์ให้แข็งแรง และมีภาพจำที่ชัดเจนมากขึ้น จนสามารถเอาชนะคู่แข่งทางการตลาดได้ง่ายยิ่งขึ้น
- โดยธรรมชาติแล้ว อะไรที่คงเดิม เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็จะได้รับความสนใจน้อยลงเนื่องจากเกิดความเคยชิน การ Rebranding จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของผู้ประกอบการ กลุ่มเป้าหมายเดิม และกลุ่มเป้าหมายใหม่
ก่อน Rebranding ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
การ Rebranding ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้ประกอบการจะต้องมีการเตรียมตัวพร้อม เพื่อให้การ Rebranding เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว โดยจะต้องมีข้อมูลในส่วนต่าง ๆ ดังนี้
รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงในการ Rebranding
อันดับแรก คุณจะต้องทราบและเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงในการ Rebranding สินค้า บริการ หรือแบรนด์ของคุณให้ชัดเจนว่า ต้องการรีแบรนด์เพื่ออะไร? เพื่อแก้ปัญหาในส่วนใด? เพื่อให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างตรงจุด
รู้จักและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ดี
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนการรีแบรนด์ก็คือ คุณจะต้องทราบว่ากลุ่มเป้าของแบรนด์คุณคือใคร และรู้จักความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนั้นให้ดี เพราะหากรีแบรนด์ไปแล้วแต่สินค้าหรือบริการนั้นไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ก็ถือว่าการรีแบรนด์นั้นไม่ประสบความสำเร็จ
ต้องมองภาพรวม และผลของการรีแบรนด์ในระยะยาว
ก่อนจะตัดสินใจรีแบรนด์นั้น คุณจะต้องมองภาพรวมและผลของการรีแบรนด์ในระยะยาวทั้งหมดให้ดีเสียก่อน ว่าควรวางกลยุทธ์อย่างไร ควรปรับเปลี่ยนในส่วนไหนจึงจะเห็นผล เนื่องจากการรีแบรนด์ครั้งหนึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และยังต้องสร้างความรับรู้ใหม่ให้กับผู้บริโภคอีกด้วย หากวางแผนไม่ดีพอจนทำให้ต้องรีแบรนด์บ่อย ๆ ก็อาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสน และส่งผลเสียกับแบรนด์ได้
เทคนิคการ Rebranding ให้มีประสิทธิภาพ
เมื่อเตรียมความพร้อมก่อนการ Rebranding กันไปแล้ว ก็มาถึงเทคนิคการรีแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับแบรนด์ โดยเทคนิคที่เรานำมาแบ่งปันมีดังนี้
ควรเปลี่ยนจากภายในสู่ภายนอก
การสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค จะต้องเริ่มจากคนภายในองค์กรเสียก่อน โดยจะต้องมีการสร้างความเข้าใจกับพนักงานทุกระดับในองค์กรไปจนถึงผู้บริหาร เพื่อให้คนภายในองค์กรมีความเข้าใจและเชื่อมั่นในจุดยืนเดียวกัน จนสามารถสื่อสารกับผู้คนรอบข้างได้อย่างถูกต้องและชัดเจน เพราะหากคนในองค์กรไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงในการ Rebranding ก็อาจส่งผลให้การ Rebranding เต็มไปด้วยปัญหา และไม่สำเร็จได้
รีแบรนด์ให้ชัดเจนทุกส่วน อย่าเปลี่ยนแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง
สี ตัวอักษร หน้าร้าน สินค้า วัสดุอุปกรณ์ทุกชิ้น และสื่อทุกอย่างที่มีโลโก้ของแบรนด์ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนให้กับผู้บริโภค เพราะหากมีการปรับเปลี่ยนแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ก็อาจจะกลายเป็นการสื่อสารที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน จนสร้างความสับสนแก่ผู้บริโภคได้
ไม่ควร Rebranding บ่อย
ก่อนที่จะตัดสินใจ Rebranding แบรนด์จะต้องมั่นใจเสียก่อนว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะสามารถแก้ไข ตอบสนอง หรือเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ เพราะหากแผนการดำเนินการยังไม่รัดกุมมากพอจนทำให้การ Rebranding ครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะต้องเสียเวลาและเงินทุนจำนวนมหาศาลไปโดยเปล่าประโยชน์
สื่อสารแบรนด์ใหม่ออกไปให้ชัดเจน
เมื่อทำการรีแบรนด์เรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การสื่อสารแบรนด์ใหม่ออกไปให้ชัดเจน ผ่านช่องทางการสื่อสารทั้งหมดที่แบรนด์มี เพื่อเพิ่มการรับรู้ และการจดจำภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับการ Rebranding ทั้งหมดที่เรารวบรวมมา และเมื่อคุณทราบถึงวิธีการเตรียมตัว เทคนิค ประโยชน์ รวมถึงเหตุผลที่แบรนด์ควรทำการ Rebranding ไปแล้ว ก็ควรจะนำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณากับแบรนด์ของคุณอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่แบรนด์ของคุณจะต้องทำการ Rebranding
หากจำเป็นจะต้องรีแบรนด์อย่างเร่งด่วนจากสถานการณ์บางอย่างที่มีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ ก็ควรจะหาตัวช่วยเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและระยะเวลาในการทำงานที่ลดลง ซึ่ง NeuMerlin Group เป็น Multi-Boutiques Marketing Agency Platform ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มบริษัทภายใต้ NeuMerlin Group ที่มีบริการเกี่ยวกับการ Rebranding ทั้ง Brand Identity Designs, Key Visual Production, Packaging and In-Store Designs และ Advertising Designs พร้อมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมให้บริการคุณ
เราคือ Marketing Agency ที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการมีส่วนร่วมในเอเชียแปซิฟิก พร้อมทีมงานมืออาชีพ