Influencer Marketing ในยุค AI
KOLs 1 ในเครื่องมือการตลาดดิจิตัลที่สำคัญ
การใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOL ถือว่าเป็นหนึ่งใน Must Have กลยุทธ์ที่ต้องมี สำหรับการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน อินฟลูเอนเซอร์ถือว่าเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ Marketing Funnel ได้ครบ ตั้งแต่ Awareness ไปถึง Engagement หรือสร้างให้เกิด Conversion ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้อินฟลูเอนเซอร์ตั้งแต่ระดับ Macro Micro หรือ Nano ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้เมื่อเลือกใช้ให้ถูกกับตำแหน่งทางการตลาดของสินค้าและกลุ่มเป้าหมายหลัก
การทำ Affiliate Marketing ที่อินฟลูเอนเซอร์มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดันให้เกิดยอดขาย ตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดอย่างยิ่ง คือในช่องทาง Social Commerce อย่าง Shopee และ Lazada หรือการติดตะกร้าในคลิป TikTok
Pros & Cons ของการใช้ Influencer
เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ เป็นเครื่องมือที่นิยมสำหรับยุคนี้แล้ว แน่นอนว่าหลายแบรนด์ก็จะวิ่งเข้าอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้เกิดการแข่งขันกันสูงขึ้น การใช้ influencer นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งแต่ละแบรนด์จำเป็นต้องพิจารณาเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Pros
- สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
- มีความยืดหยุ่นในการเลือกวัตถุประสงค์ ว่าต้องการ Awareness / Engagement / Conversion
- สามารถสร้างผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาอันสั้น เช่น Top Spender Campaign กับคู่จิ้น
Cons
- ค่าใช้จ่ายในการจ้าง Influencer ค่อนข้างสูง
- ไม่สามารถสร้างความเป็น Exclusivity ให้กับแบรนด์ได้ เนื่องจากตัวอินฟลูเอนเซอร์เองสามารถรีวิวสินค้าได้หลายหลายแบรนด์ หลากหลาย Category
- กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจในตัวอินฟลูเอนเซอร์มากกว่าแบรนด์ เช่น การทำแคมเปญอินฟลูเซอร์ เพื่อให้ฐานแฟนคลับของอินฟลูเอนเซอร์มาเข้าร่วมกิจกรรม หรือมี Engagement ร่วมกับแบรนด์ แต่เมื่อแคมเปญจบลง ยอด Engagement ก็จะลดลงทันที หรือในบางครั้งยอด Friend หรือ Follower ก็ลดลงด้วยเช่นกัน
จีนนำเทรนด์ อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง
เมื่อพูดถึงวงการอินฟลูเอนเซอร์แน่นอนว่าประเทศจีนถือว่าเป็นผู้นำของวงการนี้ก็ว่าได้ ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์ของจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก สามารถสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ได้อย่างมหาศาล และยังเป็นต้นแบบให้กับหลายประเทศ ซึ่งวงการอินฟลูเอนเซอร์ในประเทศไทยเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนพอสมควร
ในปัจจุบันวงการอินฟลูเอนเซอร์ของจีนนั้นก็ยกระดับไปอีกขั้น ด้วยการสร้าง Virtual Influencer หรืออินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง มีหลายบริษัทในประเทศจีนที่ได้เริ่มหันมาสร้างและพัฒนา Virtual Influencer ซึ่งแต่ละคนก็จะถูกพัฒนาโดยมีการวางคาแรคเตอร์ นิสัย บุคลิก และการแต่งตัวแตกต่างกันไปในสไตล์ของตัวเอง และมี Social account เสมือนคนคนหนึ่งจริง ๆ
โดย Virtual Influencer ที่ถูกพูดถึงกันมากและเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ ก็น่าจะเป็น อายายี่ (Ayayi) กับ โนอาห์ (Noah) จากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง อาลีบาบา (Alibaba) ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์เหมือนอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นบุคคลจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญเซลใหญ่ 11.11 หรือการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสินค้าหลากหลายแบรนด์ รวมถึงแบรนด์ Fashion High End เช่น Louis Vuitton และ Tiffany & Co. เป็นต้น
ประเทศจีนยังยกระดับไปอีกขั้นกับแคมเปญของ Tommy Hilfiger ที่ใช้ Virtual Influencer อย่าง Noah มาไลฟ์สดพูดคุยกับลูกค้าเป็นเวลาถึง 1 ชั่วโมงเต็ม และมียอดคนดูสูงถึง 670,000 กว่าคน ทำให้ยอดขายรวมในไลฟ์สตรีมนั้นเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
บทสรุป
เชื่อว่าอีกไม่นานเทรนด์ของ Virtual Influencer จะเป็นเทรนด์ใหม่ที่เข้ามา Disrupt อุตสาหกรรมโฆษณา และแวดวงอินฟลูเอนเซอร์ในเมืองไทย ซึ่งทั้งนักการตลาดและนักโฆษณาเองก็ควรเตรียมพร้อมปรับตัวรับกระแสใหม่นี้ โดยเฉพาะอินฟลูเอนเซอร์เองก็อาจจะต้องมีการปรับตัวในการทำ Content หรือวางตำแหน่งการตลาดตัวเองใหม่ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับ Virtual Influencer ได้อย่างเต็มที่
Source :
https://th.alibabanews.com
https://wavemakerglobal.com