Visual Content คืออะไร พร้อม 5 วิธีสร้าง Visual Content ให้สะดุดตา

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลข่าวสารไหลผ่านหน้าจออย่างรวดเร็ว การดึงดูดความสนใจของผู้ชมให้หยุดมองคอนเทนต์ของเรากลายเป็นความท้าทายสำคัญ นักการตลาดและนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างค้นหาวิธีที่จะทำให้เนื้อหาโดดเด่นและน่าจดจำ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทรงพลังและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง คือ การใช้ Visual Content หรือคอนเทนต์ในรูปแบบภาพและวิดีโอ แต่ Visual Content คืออะไรกันแน่ ทำไมถึงสำคัญ และเราจะสร้างสรรค์มันออกมาให้ “สะดุดตา” ได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบให้คุณครับ

Visual Content คืออะไร

Visual Content คืออะไร

Visual Content หมายถึง รูปแบบของเนื้อหาที่สื่อสารข้อมูลหรือข้อความผ่านองค์ประกอบทางภาพเป็นหลัก แทนที่จะใช้เพียงตัวอักษรหรือข้อความเพียงอย่างเดียว ซึ่งครอบคลุมสื่อหลากหลายประเภท ตั้งแต่รูปภาพธรรมดา วิดีโอ อินโฟกราฟิก ไปจนถึงภาพเคลื่อนไหว และอื่น ๆ อีกมากมาย หัวใจสำคัญของ Visual Content คือ การใช้ “ภาพ” เพื่อเล่าเรื่อง สื่อสารอารมณ์ หรือทำให้ข้อมูลที่ซับซ้อนเข้าใจง่ายขึ้น

เหตุผลที่ Visual Content มีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน มาจากการที่สมองของมนุษย์ประมวลผลภาพได้เร็วกว่าข้อความหลายเท่า ข้อมูลจากหลายงานวิจัยชี้ว่า เราสามารถจดจำข้อมูลที่เป็นภาพได้ดีกว่า และภาพยังกระตุ้นการตอบสนองทางอารมณ์ได้รวดเร็วกว่าอีกด้วย ในโลกออนไลน์ที่ผู้คนมีสมาธิจดจ่อสั้นลง การใช้ Visual Content จึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการจับความสนใจ สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) และทำให้สารที่เราต้องการสื่อ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและน่าจดจำ

Visual Content มีกี่ประเภท

Visual Content นั้นมีความหลากหลาย สามารถปรับใช้ให้เข้ากับแพลตฟอร์มและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป เรามาทำความรู้จักกับประเภทหลัก ๆ ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันกันครับ

รูปภาพ (Image)

รูปภาพถือเป็นรูปแบบพื้นฐานและเข้าถึงง่ายที่สุดของ Visual Content ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายจริง ภาพวาด ภาพกราฟิกดีไซน์ หรือภาพประกอบต่าง ๆ รูปภาพสามารถใช้สื่อสารข้อความได้หลากหลาย ตั้งแต่การแสดงสินค้าหรือบริการ การสร้างบรรยากาศและอารมณ์ ไปจนถึงการใช้เป็นภาพประกอบบทความเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น ความสวยงาม ความคมชัด และความเกี่ยวข้องกับเนื้อหา เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูปภาพนั้น ๆ มีประสิทธิภาพ

วิดีโอ (Video)

วิดีโอเป็นหนึ่งในรูปแบบ Visual Content ที่ทรงพลังและได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว เสียง และข้อความเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้วิดีโอสามารถเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อน สร้างความบันเทิง ดึงดูดอารมณ์ และสร้างการมีส่วนร่วมได้อย่างยอดเยี่ยม วิดีโอมีหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอสั้น (Short-form video) ที่นิยมบน TikTok หรือ Instagram Reels, วิดีโอขนาดยาว (Long-form video) สำหรับเนื้อหาเชิงลึก, วิดีโอถ่ายทอดสด (Live video) เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ หรือวิดีโอสาธิตสินค้า (Product demo)

อินโฟกราฟิก (Infographic)

อินโฟกราฟิก คือ การนำข้อมูลที่ซับซ้อน สถิติ หรือขั้นตอนต่าง ๆ มาย่อยและนำเสนอในรูปแบบภาพที่สวยงาม เข้าใจง่าย และน่าสนใจ มักประกอบด้วยไอคอน กราฟ แผนภูมิ และข้อความสั้น ๆ ที่ออกแบบมาอย่างดี อินโฟกราฟิกเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสรุปข้อมูลจำนวนมากให้กระชับ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมและจดจำข้อมูลสำคัญได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นคอนเทนต์ที่ถูกแชร์ต่อได้ง่ายอีกด้วย

ภาพเคลื่อนไหว (Animation)

ภาพเคลื่อนไหว หรือ แอนิเมชัน เป็นอีกรูปแบบของ Visual Content ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวหรืออธิบายแนวคิดที่เป็นนามธรรมให้เห็นภาพได้ชัดเจน ตั้งแต่แอนิเมชันแบบ 2D, 3D, Motion Graphics ไปจนถึง GIF แบบง่าย ๆ แอนิเมชันสามารถเพิ่มความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา และเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับวิดีโออธิบาย (Explainer video), การนำเสนอข้อมูล หรือการสร้างเรื่องราวที่น่าติดตาม

E-Books

แม้ว่า E-Books หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีเนื้อหาหลักเป็นตัวอักษร แต่การจัดวางเลย์เอาต์ การใช้รูปภาพประกอบ กราฟ หรืออินโฟกราฟิกภายในเล่ม ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ Visual Content เพื่อทำให้เนื้อหาที่ยาวและละเอียดน่าอ่านและเข้าใจง่ายขึ้น E-Books มักใช้เป็นเครื่องมือในการให้ความรู้เชิงลึก หรือเป็น Lead Magnet (สิ่งดึงดูดให้คนกรอกข้อมูล) ในแคมเปญการตลาด การออกแบบ E-Book ที่สวยงามและอ่านง่ายจึงมีความสำคัญไม่น้อย

7 เทคนิคสร้าง Visual Content ให้สะดุดตา

7 เทคนิคสร้าง Visual Content ให้สะดุดตา

เมื่อเข้าใจแล้วว่า Visual Content คืออะไรและมีรูปแบบไหนบ้าง คำถามต่อไปคือ เราจะสร้างสรรค์มันออกมาอย่างไรให้โดดเด่น ดึงดูดสายตา และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองนำ 7 เทคนิคนี้ไปปรับใช้กันดูครับ

1. เลือกใช้ภาพโฆษณาที่ดึงดูด และแสดงเอกลักษณ์ของแบรนด์

ภาพแรกที่ผู้ชมเห็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพปกวิดีโอ ภาพประกอบบทความ หรือภาพในโพสต์โซเชียลมีเดีย ควรเลือกใช้ภาพที่มีคุณภาพสูง คมชัด สื่อถึงเนื้อหาหลัก และที่สำคัญคือต้องสะท้อน “ตัวตน” หรือเอกลักษณ์ของแบรนด์ การกำหนด Mood & Tone, การใช้สี หรือสไตล์ภาพที่สอดคล้องกัน จะช่วยสร้างการจดจำและทำให้ Visual Content ของคุณดูเป็นมืออาชีพ การออกแบบแบรนด์ที่ดีจะช่วยกำหนดแนวทางในการเลือกใช้ภาพเหล่านี้ได้

2. ใช้ Visual Storytelling

มนุษย์เราเชื่อมโยงกับเรื่องเล่าได้ดีเสมอ ลองใช้ Visual Content ของคุณเพื่อ “เล่าเรื่อง” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ เรื่องราวความสำเร็จของลูกค้า หรือการนำเสนอสินค้า/บริการผ่านสถานการณ์จำลอง การเล่าเรื่องด้วยภาพหรือวิดีโอจะช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกคล้อยตามและจดจำแบรนด์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น นี่คือส่วนสำคัญของการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและแตกต่าง

3. อย่าลืมปุ่ม Call to Action (CTA)

Visual Content ที่สวยงามเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้ชมดำเนินการบางอย่างต่อได้ อย่าลืมใส่ Call to Action (CTA) ที่ชัดเจนลงไปในภาพหรือวิดีโอของคุณ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม “คลิกเลย”, “ดูรายละเอียดเพิ่มเติม”, “ซื้อตอนนี้” หรือข้อความเชิญชวนอื่น ๆ ควรออกแบบ CTA ให้โดดเด่น มองเห็นง่าย และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของคอนเทนต์นั้น ๆ

4. เล่าเรื่องยาก ให้เข้าใจง่ายด้วย Infographic

หากคุณมีข้อมูล สถิติ หรือขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องการนำเสนอให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่าย ๆ อินโฟกราฟิกคือคำตอบที่ดีที่สุด ออกแบบอินโฟกราฟิกให้สวยงาม ใช้สีสันและไอคอนที่น่าสนใจ แบ่งข้อมูลเป็นส่วน ๆ ให้ย่อยง่าย และเน้นจุดสำคัญให้ชัดเจน อินโฟกราฟิกที่ดีไม่เพียงแต่ให้ข้อมูล แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้แบรนด์ของคุณดูเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ

5. เลือกใช้แฮชแท็กและแคปชั่นที่เหมาะสม

Visual Content

แม้ Visual Content จะเน้นที่ภาพ แต่ข้อความประกอบอย่างแคปชั่นและแฮชแท็กก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แคปชั่นที่ดีควรช่วยเสริมบริบท ขยายความ หรือกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมเพิ่มเติม ส่วนแฮชแท็ก (#) จะช่วยเพิ่มการมองเห็น ทำให้คอนเทนต์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในเรื่องนั้น ๆ ได้กว้างขึ้น ควรเลือกใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง และผสมผสานระหว่างแฮชแท็กที่กว้างและเฉพาะเจาะจง

6. อย่ากลัวที่จะนำเสนอเรื่องราวผ่านวิดีโอ

วิดีโอยังคงเป็นราชาแห่งคอนเทนต์ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม อย่ากลัวที่จะลองสร้างสรรค์เนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสั้น ๆ ให้ความรู้, วิดีโอเบื้องหลังสนุก ๆ , Live พูดคุยกับผู้ชม หรือแม้แต่วิดีโอสาธิตการใช้สินค้า/บริการอย่างละเอียด การนำเสนอผ่านวิดีโอช่วยสร้างความใกล้ชิดและทำให้ผู้ชมเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากคุณมีเว็บไซต์ การฝังวิดีโอที่น่าสนใจก็เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มเวลาที่ผู้ชมอยู่บนหน้าเว็บ ซึ่งหากคุณใช้บริการรับทำเว็บไซต์ ก็อาจจะต้องมีการพูดคุยและกำหนดเรื่องนี้ให้ชัดเจน

7. ลองทำคอนเทนต์ How-to

คอนเทนต์ประเภท “สอนทำ” หรือ “แนะนำวิธี” (How-to) ได้รับความนิยมเสมอ เพราะช่วยแก้ปัญหาหรือให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ชมโดยตรง การสร้าง Visual Content ในรูปแบบ How-to เช่น ภาพขั้นตอนพร้อมคำอธิบายสั้น ๆ หรือวิดีโอสอนแบบ Step-by-step จะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและทำตามได้ง่าย เป็นวิธีที่ดีในการแสดงความเชี่ยวชาญและสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ของคุณ

สรุปบทความ

Visual Content ไม่ใช่แค่เทรนด์การตลาดที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่มันคือเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังและจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน การทำความเข้าใจในรูปแบบต่าง ๆ ของ Visual Content และการนำเทคนิคการสร้างสรรค์ที่เหมาะสมมาปรับใช้ จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณโดดเด่น สะดุดตา ดึงดูดความสนใจ และสื่อสารข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาพที่สะท้อนแบรนด์ การเล่าเรื่องด้วยภาพ การใช้อินโฟกราฟิกย่อยข้อมูล หรือการสร้างสรรค์วิดีโอที่น่าสนใจ

Writer
NMG Team

เราคือ Marketing Agency ที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการมีส่วนร่วมในเอเชียแปซิฟิก พร้อมทีมงานมืออาชีพ

As a creative agency, we believe in the power of imagination and innovation. We are constantly pushing the boundaries of what is possible, and strive to create work that is not only beautiful and effective, but also meaningful and impactful.

เริ่มโปรเจคร่วมกัน

contact@neumerlin.com
การใช้เว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณตกลงที่จะจัดเก็บคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อปรับปรุง และ วิเคราะห์การใช้งานของเว็บไซต์ ดู นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเราสําหรับข้อมูลเพิ่มเติม Privacy Policy